Blog

1.กุหลาบ (Rose)

• ความทนทาน: กุหลาบเป็นดอกไม้ที่มีความนิยมมากในการจัดช่อ เนื่องจากมีรูปลักษณ์สวยงามและหลากหลายสีสัน กุหลาบทนทานได้ดีในระยะเวลาหนึ่งหากดูแลอย่างถูกวิธี เช่น การเปลี่ยนน้ำและตัดก้านใหม่
• ข้อดี: ทนทานและรักษาได้ง่ายเมื่อดูแลถูกวิธี สีสันสวยงามและมีความหมายที่หลากหลาย
• ข้อควรระวัง: หากมีการขนส่งหรือวางในสภาพอากาศที่ร้อนเกินไป อาจทำให้กลีบดอกเหี่ยวเร็วได้

2.ลิลลี่ (Lily)

• ความทนทาน: ลิลลี่เป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและรูปลักษณ์ที่สวยงาม สามารถอยู่ในน้ำได้นานหลายวัน โดยที่กลีบดอกไม่เหี่ยวเร็ว
• ข้อดี: มีดอกขนาดใหญ่และสีสันสวยงาม ใช้ในการจัดช่อได้ดี และมีหลากหลายพันธุ์ เช่น ลิลลี่สีขาว, สีชมพู, และสีส้ม
• ข้อควรระวัง: ควรระวังไม่ให้เกสรของลิลลี่ติดเสื้อผ้าหรือวัสดุที่ใช้ในการจัด เพราะเกสรอาจทำให้เกิดรอยเปื้อนได้

3.เบญจมาศ (Chrysanthemum)

• ความทนทาน: เบญจมาศเป็นดอกไม้ที่มีความทนทานสูงมาก โดยสามารถทนอยู่ในน้ำได้หลายวันและยังคงความสดอยู่
• ข้อดี: มีดอกขนาดใหญ่ สีสันหลากหลาย และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานเมื่อดูแลอย่างถูกวิธี
• ข้อควรระวัง: บางพันธุ์อาจมีกลิ่นแรง หรืออาจจะดูไม่สดใสเมื่ออยู่ในอากาศที่ร้อนเกินไป

4.กล้วยไม้ (Orchid)

• ความทนทาน: กล้วยไม้เป็นดอกไม้ที่มีความทนทานสูงและสามารถอยู่ได้นานหลายวัน เมื่อจัดช่อให้เหมาะสมและดูแลอย่างดี
• ข้อดี: ดอกไม้สวยงาม หรูหราและทันสมัย สีสันสวยงามมาก และมักมีอายุยาว
• ข้อควรระวัง: กล้วยไม้ต้องการการดูแลที่ดี เช่น น้ำที่สะอาด และการจัดช่อที่ให้มีการระบายอากาศดี

5.ทานตะวัน (Sunflower)

• ความทนทาน: ทานตะวันเป็นดอกไม้ที่มีความทนทานสูงและให้ความรู้สึกสดใส เมื่อได้รับการดูแลที่ดี ทานตะวันสามารถอยู่ในน้ำได้หลายวันโดยไม่เหี่ยวเร็ว
• ข้อดี: ดอกใหญ่สวยงาม สดใส และเหมาะสำหรับการจัดช่อที่มีสีสันโดดเด่น เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับงานเทศกาลหรือการจัดงานกลางแจ้ง
• ข้อควรระวัง: ควรหลีกเลี่ยงการวางทานตะวันในที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป เพราะอาจทำให้ดอกเหี่ยวเร็ว